เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่ดีที่สุดจาก Zeiss

บทความโดย BRIDDERS optical 

 

Summary of Principal Lens Design Technologies

» EyeFit technology รุ่นใหม่ ที่ทำให้ สามารถคัสตอมโครงสร้างของเลนส์ได้ตามบุคลิก ไลฟ์สไตล์การใช้สายตา แบบเฉพาะบุคคลอย่างเจาะจง

» CORE technology เพิ่มประสิทธิภาพการการส่งผ่านแสงให้ได้แม่นยำขึ้นโดยคำนวณจาก อนาโตมีดวงตา แต่ละข้างเฉพาะบุคคลอย่างเจาะจง

» การปรับแต่งโครงสร้างเลนส์จากค่าสายตาที่แตกต่างกันอย่างถูกต้องนั้น สามารถทำให้การมองเห็นร่วมกันสองตานั้นมีความกว้างได้มากกว่าเลนส์ทั่วไปถึง 50%

» การปรับแต่งโครงสร้างโดยอ้างอิงจากขนาดกรอบแว่นและความสูงของจุดกลางดวงตาที่ใช้จริงนั้น ทำให้ได้โครงสร้างที่ดีที่สุดเสมอไม่ว่าจะเลือกกรอบชนิดใดก็ตาม

» การปรับแต่งโครงสร้างโดยอ้างอิงจากตำแหน่งการใส่จริงในระบบสามมิติ ทำให้ได้ภาพแม่นยำ คม ทั่วทั้งพื้นผิวเลนส์ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

» การผลิตแบบ Free-form back-surface ส่งผลให้เกิดความแม่นยำสูงสุดในการผลิตที่อ้างอิงจากค่าสายตาและโครงสร้างเลนส์ที่มีความแตกต่างกันหลายล้านแบบ

 

 

การผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไปนั้น เพื่อการลดต้นทุนโรงงานจะทำการผลิตแบบ Mass production ขึ้นมาเป็น Semi-Blank ก่อน โดยแยกเป็นส่วนๆตามความโค้งเลนส์และค่าสายตายาวคร่าวๆไว้ เมื่อมีการสั่งทำเลนส์โปรเกรสซีฟแล้วจึงนำ Semi-blank มาขัดโครงสร้างแบบ Freeform , Digital ตามค่าสายตานั้นลงไป

ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวทำให้ Semi-blank ชิ้นนั้นๆไม่สามารถไม่สามารถนำไปขัดค่าสายตาได้อย่างดีที่สุด กล่าวคือ Semi-bank หนึ่งชิ้นจะทำได้ดีทีี่สุดแค่สายตาใดสายตาหนึ่งเท่านั้น  ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างเลนส์ตามปัจจัยอื่นๆที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้  ทำให้ผู้ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟต้องทนฝืนกับความบิดเบือนของภาพ และประสิทธิภาพเลนส์ที่ไม่ดีพอ ทำให้เกิดการพัฒนาเลนส์ที่ผลิตขึ้นมาจากการตรวจวัดแบบเฉพาะบุคคลขึ้น


ภาพแตกต่างระหว่างโครงสร้างเลนส์เมื่อดวงตาสองข้างมีค่าแตกต่างกัน โดยใช้ Semi-blank เทียบกับการผลิตแบบเฉพาะบุคคล

 

Real time free-form
การขัดเลนส์แบบ Real Time โดยใช้ข้อมูลการคำนวณแสง wavefront แบบจุดต่อจุดนั้น  ทำให้ลดการหักเหแบบ low-order aberrations ลงได้มากที่สุด ผ่านการคำนวณด้วยอัลกอริทึ่มเฉพาะของ Zeiss

ด้วยการที่ Zeiss เป็นหนึ่งในผู้เริ่มต้นบุกเบิกการผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟแบบ free-form การควบคุมและผลิตโดยวิศวกรภายในทั้งหมด ทำให้เปรียบเทียบแล้วได้ผลลัพท์ที่ดีกว่าการผลิตแบบ  free-form โดยซอฟแวร์ที่ปรับแต่งมาได้ไม่ละเอียด


ภาพแสดงผลลัพธ์การคำนวณแสงแบบจุดต่อจุด


ภาพแสดงผลลัพธ์โครงสร้างของเลนส์จากการใช้ซอฟแวร์คำนวณทั่วไป เทียบกับการคำนวณที่มีความแม่นยำสูง

 

Customized for the Wearer’s Visual Profile
พฤติกรรมการใช้สายตาที่แตกต่างกันตามหน้าที่การงาน กิจกรรมในชีวิตประจำวัน และยามพักผ่อนของผู้ใช้โปรเกรสซีฟ เป็นหนึ่งในตัวแปรที่จะช่วยให้โครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟนั้นถูกผลิตมาได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าทุกคนจะต้องได้ทำการทดสอบผ่านแบบสอบถามประเมินการใช้สายตาก่อนที่ร้าน BRIDDERS 

เทคโนโลยีที่ทำให้การมองเห็นภาพคมชัดเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยพิจารณาไลฟสไตล์และกิจกรรมเฉพาะบุคคลร่วมด้วย

Near : สำหรับผู้ที่สวมใส่เลนส์ที่มีกิจกรรมมองใกล้เป็นระยะเวลานาน

Intermediate : สำหรับผู้ที่สวมใส่เลนส์ที่เน้นการใช้งานในระยะกลาง เช่น ในที่ทำงาน เข้าประชุมบ่อย ต้องนำเสนองานบ่อย

Balance : สำหรับผู้สวมใส่เลนส์ที่มีกิจกรรมหลากหลาย

 

Customized for the Wearer’s Ocular Anatomy
อนาโตมีของดวงตาเรามีความแตกต่างกัน การตรวจวัดตำแหน่งจุดหมุนของดวงตาโดย BRIDDERS นั้น จะนำไปคำนวณเพื่อผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟที่สัมพัธ์กับดวงตาทั้งสองข้าง เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของดวงตาของคนสายตาสั้นนั้นจะมีลักษณะการเหลือบที่ลงมาต่ำกว่า 


ภาพเปรียบเทียบองศาการเหลือบตาลงมาโฟกัสระยะใกล้บุคลที่มีค่าสายตาต่างกัน

 

นอกจากนั้นแล้วความห่างระหว่างจุดหมุนของดวงตากับเลนส์โปรเกรสซีฟ นั้นยังมีความแตกต่างกันตามอนาโตมีของดวงตาแต่ละข้าง ซึ่งส่งผลให้ค่าสายตาที่ตรวจวัดได้ในห้องวัดตานั้นจะต้องถูกคำนวณใหม่ให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังส่งผลถึงอัตราการเร่งของโคร้งสร้างโปรเกรสซีฟ ตำแหน่งหุบเข้าของดวงตาเมื่ออ่านหนังสือ


ภาพสถิติโดยเฉลี่ยจากเครื่อง  Zeiss IOLMaster® ของความห่างระหว่างจุดหมุนดวงตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

ซึ่งการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องถึง 40 ปีจากเครื่องมือทางการแพทย์ในการสลายต้อกระจก Lasik  ทำให้ Zeiss มีฐานข้อมูลมากมายและพัฒนาขึ้นมาเป็น Center of Rotation Evaluation (CORE) เทคโนโลยี ที่มีความแม่นยำสูงบนประชากรในสัดส่วน 99%

 

Customized for the Wearer’s Prescription Requirements

ในเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไปนั้น เมื่อผู้สวมใส่มีสายตาเอียง โดยเฉพาะการเอียงในแนวทแยงนั้น จะส่งผลให้ความบิดเบือนถูกส่งผ่านเข้ามาในจุดโฟกัสตา ทั้งขณะมองไกล กลาง ใกล้ และจะยิ่งทวีคุณเมื่อดวงตาสองข้างนั้นเอียงแตกต่างกัน
แต่ด้วยการคำนวณและปรับแต่ง fine-tuning โดย BRIDDERS นั้น ทำให้โครงสร้างเลนส์ออกแบบมารองรับการทำงานของดวงตาทั้งสองข้าง ได้ภาพที่แนบสนิทพร้อมๆกันทั้งสองตาได้มากกว่าปกติถึง 50%

Customized for the Wearer’s Fitting Parameters
ที่ BRIDDERS นั้นจะตรวจวัดตำแหน่งการใส่แว่นในระบบ 3มิติ ประกอบด้วย ความโค้งหน้าแว่น องศาเทหน้าแว่น ความห่างระหว่างเลนส์ถึงตา เพื่อนำค่าที่ได้ไปคำนวณโครงสร้างเลนส์อย่างถูกต้องตามการใส่จริง ให้ได้ประสิทธภาพที่สูงที่สุด เนื่องจากลักษณะของกรอบแว่นที่ลูกค้าเลือกใช้แต่ละอันนั้นแตกต่างกันทั้งสิ้น แม้กระทั้งแว่นตารุ่นเดียวกันหากมีการดัดปรับทรงมาแล้ว เมื่อใส่ลงบนใบหน้าก็จะมีความแตกต่างของภาพเกิดขึ้น
 

 


หากคำนวณตำแหน่งการใส่ได้อย่างแม่นยำแล้ว จะทำให้การโฟกัสภาพนั้นทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะใช้กรอบแว่นใดๆก็ตาม

 

Customized for the Wearer’s Frame Choice
ที่ BRIDDERS เราออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟให้มีอัตราเร่งของกำลังเลนส์  สัมพันธ์กับความสูงของกรอบแว่น ลักษณะพฤติกรรมการเหลือบสายตาของแต่ละบุคคล และรวมถึงความถนัดในการใช้โปรเกรสซีฟตามลักษณะงานประจำ หรือวิถีชีวิตของบุคคลนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้นั้นปรับตัวได้ง่าย ไม่รู้สึกถึงการวูบวาบ เมื่อเปลี่ยนโฟกัสไปที่ระยะการมองต่างๆ และเมื่อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  ซึ่งฟิตติ้งได้บนกรอบแว่นที่มีความลึกได้ทุกขนาด (มากกว่า2.8cm ขึ้นไป)

 

 

Luminance Design® Technology

ด้วย Luminance Design Technology Zeiss ได้นำเอาขนาดรูม่านตาในภาวะแสงต่างๆมาร่วมคำนวณในการผลิตเลนส์ Progressive โดยการวงโครงสร้างเลนส์ให้ไม่ไม่มีความบิดเบือนทับซ้อนกับมุมเหลือบของรูม่านที่ขยายใหญ่ขึ้นในเวลากลางคืน ทำให้ผู้สวมใส่ยังคงสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนแม้ในภาวะแสงน้อย ลดแสงฟุ้งกระจายเป็นแฉกๆเมื่อขับรถตอนกลางคืน

รูม่านตาขนาดกลางในภาวะแสงน้อย

รูม่านตาขยายใหญ่ในเวลากลางคืน